WAN (Wide Area Network)
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณอาจารย์ Chaiwat Amornhirunwongสำหรับการสอนในครั้งนี้
เนื้อหาครั้งนี้เป็นการสรุปขึ้นมาเอง เพื่อใช้ในการอ่านทบทวน
อ้างอิง : https://www.youtube.com/watch?v=F8RSCb8pCoE
WAN
- มีพื้นที่ที่กว้าง
- เราไม่ได้เป็นเจ้าของ จะมีผู้ให้บริการเท่านั่นที่เป็นเจ้าของ
WAN ทำงานที่ Layer 1 และ Layer 2
- Lease Line : Layer 1
- Frame Relay : Layer 2
Protocal
Lease Line : HDLC , PPP
Frame Relay: Frame Relay
จากรูป
บนสายทองแดงสัญญาณจะวิ่งได้ 2 แบบคือ
1. Analog : Modems เมื่อสัญญาณวิ่งเข้ามาใน Modems จะทำหน้าที่
1.1 ขาเข้าจะแปลง Analog เป็น Digital คือการ Mod
1.2 ขาออกแปลง Digital เป็น Analog คือการ Demod
2. Digital : DSU/CSU : ไม่ต้องทำการ Mod เพราะสัญญาณวิ่งเข้าเป็น Digital วิ่งออกก็เป็น Digital อยู่แล้ว
Modems จะเป็นผู้จ่าย Clock เลือกว่า : DCE
ผู้รับ Clock เลือกว่า : DTE
- Reserve Bandwidth : เป็นทำการจองไว้เต็มจำนวนได้แค่ 31 ท่อให้กับลูกค้า
- Share Bandwidth : เป็นการหาร Bandwidth เท่ากับใช้งานจริง
- Permanent Circuit : เป็นการเชื่อมต่อถาวร
- Create Circuit if need to used : จะเป็นการเชื่อมต่อเมื่อจะใช้งานเท่านั่น(ชั่วคราว)
- Lease Line จะเป็น Reserve Bandwidth และ Permanent Circuit
จะมีการสร้างท่อเรียกว่า Time Slot จะแบ่งให้ลูกค้าใช้ได้แค่ 31 คนเพราะแต่ละคนจะจองคนละ 1 Timeslot ถึงจะใช้งานไม่ถึง 64 K ก็ตาม เมื่อมีลูกค้าคนที่ 32 เข้ามาจะใช้งาน ก็จะใช้ไม่ได้เพราะ Time Slot ถูกจองหมดแล้วต้องไปสร้างท่อใหม่
ข้อดี
- จอง Bandwitdth ให้เรา 64 K เต็มจำนวนแม้ว่าจะใช้ไม่ถึงก็ตามสำหรับลูกค้าดีการันตี Bandwidth แต่แพง
ข้อเสีย
- จะใช้ได้แค่ 31 คน ถ้าคนที่ 32 มาจะต้องไปสร้างท่อใหม่ ถึงแม้ว่าท่อแรกจะใช้ไม่เต็มก็ตาม
- Frame Relay / PacketSwitching จะเป็น Share Bandwidth
จะไม่มีการจองแบบ Bandwidth จะมีการสร้างท่อเสมือนชื่อว่า visual circuit ท่อจะเล็กจะใหญ่ขึ้นอยู่กับการใช้งานจริง โดยจะมีการ Moniter โดยรวมว่ามีการใช้งาน Bandwidth ขอท่อเท่าไร เช่น ถ้าใช้งานสูงสุดถึง 80% ของท่อจะหยุดเพิ่มลูกค้าเข้าไปจะทำการสร้างท่อใหม่ E1 เส้นใหม่ แต่ถ้าใช้งานสูงสุดแค่ 30% จะมีการเพิ่มลูกค้าเข้าไปในเส้นเดิมได้อีกเรื่อยๆจนถึง 80%
Visual Circuit จะมี 2 แบบ
1. PVC : จะมีการ Connect อยู่ถาวร จะเป็น Permanent Circuit
2. SVC : จะมีการ Connect เฉพาะตอนที่ใช้งานจริงเท่านั่น Create Circuit if need to used
ข้อดี
- สามารถใช้งานที่ได้มากกว่า 31 คนเพราะใช้ Bandwidth ตามความจริงจึงมีราคาถูกกว่า Lease Line
- Circuit Switching จะเป็น Reserve Bandwidth (Create Circuit if need to used) : จะคล้ายกับ Lease Line จะทำการจอง Bandwidth ไว้เต็มท่อ แต่จะต่างกันตรงที่ Lease Line จะทำการ Connect เจ้าของเครือข่ายกับเราไว้ตลอดเวลา แต่ Circuit Switching จะเชื่อมต่อเมื่อเราเริ่มใช้งานเท่านั่น จะไม่มีการ Connect ทิ้งเอาไว้จะเริ่ม Reserve เมื่อมีการ Connect เท่านั่น
PPP : จะใช้เฉพาะกับ Lease Line โดยทั้งสองฝั่งของ Router จะต้องเชื่อมแบบ PPP เหมือนกันทั้ง 2 ฝั่ง
ข้อดี
- ทำ Authentication ได้ (HDLC จะไม่มีการทำ Authen) ทำให้ PPP ปลอดภัยกว่า HDLC
- รองรับ Protocol จาก L2/L3 ได้หลายตัว เช่น TCP/IP IPX เป็นต้น
(ถ้าเป็น Frame Relay จะรองรับ L3 แค่ 1 ตัวคือ Protocol IP)
Protocol PPP จะประกอบด้วย 2 Protocol ย่อยคือ
1. LCP
2. NCP
การทำ Authentication จะมี 2 แบบ
1. แบบ PAP : แบบนี้จะถูกแฮกข้อมูลได้ง่าย
2. แบบ CHAP : แบบนี้จะมีความปลอดภัยกว่า PAP
ขั้นตอนการ Config
ตัวอย่างการ Config PPP แบบ PAP
ตัวอย่างการ Config PPP แบบ CHAP
สัญญาณระหว่าง Router (DTE) กับ Modems (DTP)
DTE จะส่งสัญญาณ RTS,DTR ออกมา
DTF จะส่งสัญญาณ CTS,DSR,DCD ออกมา
สัญญาณทั้งหมดเหล่านี้ต้องส่งออกมาสำเร็จการเชื่อมต่อถึงจะใช้งานได้